การเรียนรู้ด้วยการลงมือกระทำโดยผ่านโครงงานเจ้าหอยแมลงภู่
นางสาวชัชฎา อนันต์ ครูโรงเรียนวัดมงคลโคธาวาส
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 2
“เรียน รู้ ลง มือ ทำ”
บทคัดย่อ จากการจัดกิจกรรมในห้องเรียน เด็กจะได้รับการเรียนรู้ผ่านการสังเกตเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในฐานะที่ดิฉันเป็นครูผู้สอน ดิฉันเห็นว่าเด็กๆ จะไม่ค่อยสนุกสนานมากเท่าไหร่และจะสนใจในเวลาสั้นๆ ดิฉันจึงหันมาจัดกิจกรรมโดยให้เด็กได้ลงมือกระทำด้วยตนเองโดยมีตัวดิฉันเองเป็นผู้คอยสนับสนุนเพื่อให้เด็กได้ลงมือกระทำโดยตนเองผ่านโครงงานวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นโครงงานที่เกิดขึ้นจากความสนใจของเด็ก เด็กๆ ในห้องเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2/2 จำนวน 15 คน ได้เดินทางลงไปทำกิจกรรมที่แหล่งเรียนรู้ป่าชายเลนภายในโรงเรียน และเด็กพบกับเปลือกหอยแมลงภู่มากมายที่แม่ครัวนำมาทิ้งไว้ เด็กๆ เกิดคำถาม อาทิ เปลือกหอยของใคร ทำไมเอามาทิ้งตรงนี้ และเอาไปทำอะไรได้บ้าง เด็กบางคนหยิบเปลือกหอยมาทำงานศิลปะ มีเด็กบางคนนำกลับมาในห้อง และพบว่าเปลือกหอยมีทั้งสีเขียวสด และสีที่ซีดแล้ว เด็กๆ จึงเกิดความสงสัยว่าเปลือกหอยเอาไปทำอะไรได้บ้าง และเด็กๆ ก็กลับบ้านเพื่อไปถามผู้รู้ และมีเด็กคนหนึ่งได้รับคำตอบจากผู้รู้มาว่านำไปทำปูนสร้างบ้านได้ เด็กๆ ในห้องเรียนสนใจกันใหญ่ว่าจะทำปูนสร้างบ้านได้จริงหรอ เด็กๆ จึงมาถามคุณครู คุณครูจึงกระตุ้นให้เด็กหาคำตอบด้วยตนเองโดยการลงมือกระทำการทดลองด้วยตนเอง เด็กๆ จึงช่วยกันหาข้อมูลและพบวิธีการว่าจะทำให้เปลือกหอยแมลงภู่นั้นกลายเป็นปูนสร้างบ้านได้ยังไง เมื่อเด็กๆ ได้วิธีการแล้วคุณครูและเด็กจึงช่วยกันหาอุปกรณ์การทดลอง และลงมือทดลองโดยการนำเปลือกหอยไปล้าง ตากแดด นำไปเผา แล้วตำๆ ให้ละเอียดแล้วร่อนให้ผงลงมาเป็นผงละเอียด สีเทาๆ เด็กๆ ตื่นเต้นและบอกว่าเหมือนผงปูนสร้างบ้านจริงๆ จากนั้นเด็กก็นำผงปูนสร้างบ้านที่ได้จากเปลือกหอยไปผสมกับน้ำแล้วนำไปทาไม้เพื่อให้ไม้ต่อกันเป็นรูปร่างต่างๆ แต่ผลปรากฏว่า ไม้ไม่ติดกัน เด็กๆ จึงคิดว่าเปลือกหอยที่เผาแล้วนั้นพอตำแล้วได้ผลออกมาเป็นผงสีเทาเหมือนปูนแต่ไม่สามารถนำมาใช้สร้างบ้านได้เหมือนปูน เด็กๆ จึงสงสัยว่าทำไมปูนเปลือกหอยที่เราทำ จึงนำมาใช้สร้างบ้านไม่ได้เหมือนแบบปูนสร้างบ้านของเรา เพราะเด็กคิดว่าเนื้อปูนของตนเองก็เป็นผงเหมือนปูนสร้างบ้านทั่วไปจริงๆ เด็กๆ จึงไปถามผู้รู้และได้คำตอบว่าเพราะในปูนมีส่วนผสมอีกหลายชนิดไม่ได้มีแค่เปลือกหอยอย่างเดียว จึงทำให้ปูนเปลือกหอยของเด็กๆ ไม่สามารถนำมาใช้สร้างบ้านได้เหมือนปูนจริงๆ
ผลการจัดกิจกรรมโครงงานพบว่าเด็กทั้ง 15 คน ได้เรียนรู้ผ่านการลงมือกระทำด้วยตนเอง มีความเข้าใจด้วยตนเอง รู้จักการสืบค้นหาความรู้เพื่อแก้ปัญหาด้วยตนเอง ซึ่งการเรียนรู้แบบลงมือกระทำทุกครั้งเด็กก็จะได้รับการพัฒนาครบทั้ง 4 ด้าน ได้ทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ และที่สำคัญเด็กจะได้รับอิสระ ได้ริเริ่มความคิดและได้ลงมือกระทำตามความคิด จึงทำให้ได้รับประสบการณ์ตรง และเกิดความสนุกสนานที่จะสืบค้นหาความรู้ต่อไป และเกิดความสุขที่จะเรียนรู้ต่อไป